เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

• ทำความรู้จักกับ MacBook Air M1 สเปก และคุณสมบัติเด่น

• ประสิทธิภาพของชิป M1 ทำไมยังคงตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบัน

• การออกแบบที่บางเบา พกพาสะดวก ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทำงาน

• แบตเตอรี่ที่ยาวนาน ทำงานต่อเนื่องได้ตลอดวัน

• ความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ ใช้งานแอปพลิเคชันยอดนิยมได้อย่างไร้ปัญหา

• ความคุ้มค่าด้านราคา ลงทุนครั้งเดียว ใช้งานได้ยาวนาน

• ทำไม MacBook Air M1 ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำงานในปัจจุบัน

MacBook Air M1 รุ่นเก่าแต่คุ้มค่า ใช้ทำงาน เครื่องเดียวจบ

“MacBook Air M1” เป็นหนึ่งในแล็ปท็อปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Apple นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2020 ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีรุ่นใหม่อย่าง MacBook Air M2 และ M3 ออกมาแล้ว แต่ MacBook Air M1 ก็ยังถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า และสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กน้ำหนักเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน มีประสิทธิภาพที่ดีพอสำหรับการทำงานทั่วไป และมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป

โดยหนึ่งในจุดแข็งของ MacBook Air M1 คือ การใช้ชิป Apple M1 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ Mac ที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้พลังงานน้อย ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 15-18 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยที่ไม่มีพัดลมระบายความร้อน ทำให้เครื่องทำงานได้เงียบ และไม่ร้อนง่าย อีกทั้งยังมีจอภาพ Retina ที่คมชัด ระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม และรองรับ macOS เวอร์ชันล่าสุด ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น และยาวนานอีกด้วย ดังนั้น ในบทความนี้ทาง “สบายเป๋า” จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ MacBook Air M1 อย่างละเอียด ตั้งแต่สเปกหลัก พอร์ตเชื่อมต่อ และจุดเด่นต่างๆ ที่เป็นเหตุผลว่าทำไม MacBook Air M1 ถึงยังเป็นแล็ปท็อปที่คุ้มค่าสำหรับการทำงานในปัจจุบัน

1. ทำความรู้จักกับ MacBook Air M1 สเปกและคุณสมบัติเด่น

“MacBook Air M1” เป็นแล็ปท็อปรุ่นแรกของ Apple ที่ใช้ชิปประมวลผล Apple Silicon ซึ่งพัฒนาขึ้นมาแทนที่ชิป Intel โดยมีการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบ ARM ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น แต่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสาร ใช้งานอินเทอร์เน็ต ดูวิดีโอ และตัดต่อภาพหรือวิดีโอเบื้องต้น นอกจากนี้ยังรองรับแอปพลิเคชันของ macOS ได้เต็มรูปแบบ และสามารถใช้งานแอปของ iOS และ iPadOS ได้บางส่วน เพราะว่าใช้สถาปัตยกรรมเดียวกัน ส่งผลให้ผู้ที่ใช้งาน iPhone หรือ iPad สามารถใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ทำให้จุดเด่นที่สำคัญของ MacBook Air M1 นั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของไม่มีพัดลม ทำให้สามารถทำงานได้เงียบสนิท และช่วยลดปัญหาฝุ่นสะสมในตัวเครื่อง แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 15-18 ชั่วโมง รวมถึงจอภาพ Retina 13.3 นิ้ว ที่ให้สีสันคมชัด พร้อมเทคโนโลยี True Tone ชิป M1 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น Intel แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า และยังสามารถรองรับ macOS เวอร์ชันล่าสุด ที่ใช้งานได้นานในอนาคต

1.1 สเปกพื้นฐานของ MacBook Air M1 ที่ควรรู้

สำหรับ MacBook Air M1 นั้นมาพร้อมกับสเปกที่ออกแบบมาให้รองรับการทำงานที่หลากหลาย โดยรายละเอียดของสเปกพื้นฐานที่ควรรู้ มีดังนี้

• ชิปประมวลผล (CPU & GPU) ใช้ชิป Apple M1 (8-Core CPU) คอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ที่สามารถช่วยให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังประหยัดพลังงานได้ดี  และยังมี GPU มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 7-Core GPU (รุ่นเริ่มต้น) และ 8-Core GPU (รุ่นสูงกว่า) รวมถึงมี Neural Engine 16-Core ที่ช่วยประมวลผลด้าน AI และ Machine Learning จึงทำให้การใช้งานชิป M1 นั้ส่งผลให้ MacBook Air M1 เร็วและลื่นไหลกว่า MacBook Air รุ่นที่ใช้ Intel มากขึ้นกว่า 3 เท่า และยังใช้พลังงานต่ำกว่า

• หน่วยความจำ (RAM) ใช้ Unified Memory ขนาด 8GB หรือ 16GB โดย Unified Memory ช่วยให้ CPU และ GPU สามารถใช้หน่วยความจำร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดแอปพลิเคชันหลายตัวพร้อมกันได้โดยไม่ทำให้เครื่องช้าลง

• พื้นที่จัดเก็บข้อมูล (SSD) สำหรับความจุ หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของ MacBook Air M1 นั้นเริ่มต้นที่ 256GB และสามารถปรับแต่งเป็น 512GB, 1TB และ 2TB ได้ และยังใช้ SSD ที่มีความเร็วสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดแอปพลิเคชัน และโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วขึ้น และช่วยลดเวลาในการบูตเครื่อง

• หน้าจอ สำหรับ MacBook Air M1 นั้นจะใช้จอ Retina Display ขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2560x1600 พิกเซล ที่สามารถรองรับ True Tone ปรับอุณหภูมิสีตามสภาพแสงรอบข้าง ส่งผลให้มีภาพที่มีความคมชัด สีสันสวยงาม และใช้งานได้สบายตา

• แบตเตอรี่ เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ภายในตัวเครื่อง 49.9 วัตต์-ชั่วโมง ทำให้สามารถใช้งานได้นาน สูงสุด 18 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จผ่าน USB-C และ MagSafe ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องเสียบชาร์จบ่อย

ระบบเสียง และกล้อง เป็นลำโพงสเตอริโอ ที่สามารถรองรับ Dolby Atmos ได้ และมีไมโครโฟน 3 ตัว รวมถึงกล้อง FaceTime HD 720p  ทำให้มีภาพ และเสียงที่คมชัด เหมาะสำหรับการประชุมออนไลน์ และใช้งานด้านสื่อมัลติมีเดียต่างๆ

1.2 พอร์ตการเชื่อมต่อเพื่อใช้ในการทำงาน 

ถึงแม้ว่า MacBook Air M1 จะมีพอร์ตที่น้อยกว่ารุ่นอื่นๆ แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพอร์ตการเชื่อมต่อของ MacBook Air M1 เพื่อใช้ในการทำงาน มีดังนี้

• USB-C / Thunderbolt 3 (2 พอร์ต) เป็นพอร์ตที่สามารถรองรับการชาร์จ การถ่ายโอนข้อมูล และเชื่อมต่อจอภายนอกได้ รวมถึงมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 40Gbps และสามารถรองรับการใช้งาน USB-C Hub เพื่อเพิ่มพอร์ตเพิ่มเติมได้ ทำให้สามารถใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม เช่น External SSD, Docking Station, HDMI Adapter ได้

• ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เป็นพอร์ตที่ใช้รองรับหูฟังแบบมีสาย และอุปกรณ์เสียงต่างๆ ทำให้สามารถได้ยินเสียงได้อย่างชัดเจน และมีคุณภาพ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้หูฟังคุณภาพสูง

• การเชื่อมต่อไร้สาย เป็นพอร์ตในการเชื่อมต่อที่เป็นแบบไร้สาย โดยสามารถรองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0 ทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น และรองรับอุปกรณ์ Bluetooth ได้หลากหลายประเภท

2. ประสิทธิภาพของชิป M1 ทำไมยังคงตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบัน

สำหรับชิป Apple M1 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 โดยเป็นชิปตัวแรกที่ Apple ออกแบบเองเพื่อใช้กับ Mac โดยเฉพาะ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญจากการใช้ชิป Intel มาสู่สถาปัตยกรรม ARM-based ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และสามารถทำงานได้ลื่นไหลมากกว่าชิปเดิม และถึงแม้จะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ชิป M1 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง รองรับแอปพลิเคชันที่ทันสมัย และให้ประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็ว และมีเสถียรภาพ ซึ่งจุดเด่นของชิป M1 และรายละเอียดต่างๆ มีดังนี้

• สถาปัตยกรรมแบบ 5 นาโนเมตร ใช้ทรานซิสเตอร์มากถึง 16,000 ล้านตัว ทำให้ชิปทำงานได้เร็วขึ้น และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ MacBook Air M1 ที่ไม่มีพัดลมยังคงรักษาความเย็นได้ดี

• CPU แบบ 8 คอร์ ที่เป็น 4 คอร์ประสิทธิภาพสูง และ 4 คอร์ประหยัดพลังงาน โดยคอร์ประสิทธิภาพสูงนั้นจะช่วยให้การใช้งานที่หนัก เช่น การตัดต่อวิดีโอ สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล และคอร์ประหยัดพลังงานนั้นจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 18 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

• GPU แบบ 7 หรือ 8 คอร์ ทำให้ MacBook Air M1 สามารถรองรับการทำงานกราฟิกระดับสูง เช่น การออกแบบ 3D การตัดต่อวิดีโอ 4K และการเล่นเกมที่ต้องใช้พลังประมวลผลกราฟิกสูงได้ดี

• Neural Engine 16 คอร์ สามารถรองรับงานด้าน AI และ Machine Learning เช่น การประมวลผลภาพ การแปลงเสียงเป็นข้อความ และการปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ

• Unified Memory หรือ RAM + VRAM รวมกัน ที่ช่วยให้หน่วยความจำทำงานร่วมกันระหว่าง CPU และ GPU ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดปัญหาคอขวด

ด้วยการใช้งานชิป M1 จึงทำให้ MacBook Air M1 นั้นสามารถทำงานได้รวดเร็วกว่า Mac รุ่นเก่าที่ใช้ชิป Intel เปิดแอป และสลับการทำงานระหว่างแอปได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น ใช้งานได้นานถึง 18 ชั่วโมง ทำให้เหมาะกับการพกพาไปใช้นอกสถานที่ และรองรับซอฟต์แวร์ใหม่ๆ และการอัปเดต macOS ทำให้ยังสามารถใช้งานได้ดีในระยะยาว

ทำให้ MacBook Air M1 นั้นเหมาะกับผู้ใช้งานอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน หรือนักศึกษา ที่ใช้ทำรายงาน ดูวิดีโอ เรียนออนไลน์ และทำโปรเจกต์ ฟรีแลนซ์ หรือพนักงานออฟฟิศ ที่ใช้งานในด้านเอกสาร งานกราฟิก งานตัดต่อ และการประชุมออนไลน์ หรือนักพัฒนา เพราะว่า MacBook Air M1 นั้นสามารถรองรับ Xcode, Docker และเครื่องมือพัฒนาแอปต่างๆ ได้ดี

2.1 ความสามารถด้าน AI และการประมวลผลกราฟิกของ MacBook Air M1

สำหรับชิป Apple M1 มาพร้อมกับ Neural Engine 16 คอร์ และ GPU แบบ 7 หรือ 8 คอร์ ทำให้ MacBook Air M1 มีความสามารถด้าน AI และกราฟิกที่โดดเด่น โดย Neural Engine 16 คอร์ ถือว่าเป็นสมองกลด้าน AI ทำให้สามารถประมวลผลได้ถึง 11 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที และใช้ในการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เช่น การจดจำใบหน้า (Face ID) การแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ หรือการปรับแต่งภาพถ่ายให้คมชัดขึ้น และ GPU 7 หรือ 8 คอร์ ที่มีประสิทธิภาพกราฟิกระดับสูง ทำให้สามารถรองรับการตัดต่อวิดีโอระดับ 4K และ 8Kใช้งานได้กับซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก เช่น Adobe Photoshop, Final Cut Pro, Blender ได้ และรองรับเกมที่ใช้กราฟิกสูง เช่น Shadow of the Tomb Raider, Baldur’s Gate 3 เป็นต้น ส่งผลให้สามารถตัดต่อวิดีโอได้เร็วขึ้น เพราะว่าเรนเดอร์วิดีโอได้เร็วขึ้นใน Final Cut Pro และ Adobe Premiere Pro รวมถึงออกแบบกราฟิก และ 3D ที่รองรับงานใน Blender, AutoCAD และ Cinema 4D หรือเล่นเกม เพราะว่ามีเฟรมเรตที่สูงขึ้น และรองรับ Metal API ของ Apple ได้ดี

3. การออกแบบที่บางเบา พกพาสะดวก ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทำงาน

สำหรับ MacBook Air M1 เป็นโน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความคล่องตัว พกพาสะดวก และรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในออฟฟิศ คาเฟ่ หรือระหว่างการเดินทาง ด้วย ดีไซน์ที่บาง และน้ำหนักเบา แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรงทนทาน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานยุคใหม่ที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ แข็งแรง ทนทาน แต่ยังคงความสะดวกสบายในการพกพา

ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีตัวเครื่องบางเฉียบ มีความหนาเพียง 1.61 ซม. ทำให้ดูเรียบหรู และทันสมัย ขอบโค้งมน และมินิมอล ช่วยให้จับถนัดมือ และดูพรีเมียมในทุกมุมมอง มาพร้อมกับคีย์บอร์ด Magic Keyboard ที่ตอบสนองได้ดีขึ้น และมีแสงไฟ Backlit ช่วยให้ใช้งานสะดวกแม้ในที่แสงน้อย และแทร็คแพด Force Touch ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งาน Multi-Touch ได้ดีขึ้น ที่ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี

นอกจากนั้นก็ยังมีสีสันให้เลือกมากถึง 3 สี ได้แก่ สีเงิน (Silver) ที่ให้ลุคพรีเมียม คลาสสิก และดูหรูหรา สีเทาสเปซเกรย์ (Space Gray) ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบหรู และดูทันสมัย และสีทอง (Gold) ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่น และสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี และด้วยดีไซน์ และสีสันที่มีความทันสมัย จึงทำให้ MacBook Air M1 นั้นตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างรอบด้าน และเหมาะกับผู้ใช้งานทุกเพศ ทุกวัย

3.1 น้ำหนักและขนาดเทียบกับโน้ตบุ๊กทำงานรุ่นอื่น

สำหรับ MacBook Air M1 นั้นได้รับการออกแบบให้มีความเบา และบางที่สุด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก โดยตัวอย่างเมื่อเทียบน้ำหนัก และขนาดกับโน้ตบุ๊กทำงานรุ่นอื่นๆ นั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

• MacBook Air M1 มีน้ำหนัก 1.29 กก. มีความหนา 1.61 ซม. ขนาดจอกว้าง 13.3 นิ้ว และสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 18 ชม.

• MacBook Pro M1 มีน้ำหนัก 1.4 กก. มีความหนา 1.56 ซม. ขนาดจอกว้าง 13.3 นิ้ว และสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 20 ชม.

• Dell XPS 13 มีน้ำหนัก 1.2 กก. มีความหนา 1.48 ซม. ขนาดจอกว้าง 13.4 นิ้ว และสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 12 ชม.

• Microsoft Surface Laptop 4 มีน้ำหนัก 1.2 กก. มีความหนา 1.48 ซม. ขนาดจอกว้าง 13.4 นิ้ว และสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 12 ชม.

ทำให้ MacBook Air M1 นั้นมีข้อได้เปรียบทั้งในเรื่องของบาง และเบากว่าโน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน รวมถึงจุดเด่นต่างๆ เช่น หน้าจอ และการใช้งานแบตเตอรี่ ทำให้สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่พกพาง่าย น้ำหนักเบา และใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวัน

3.2 วัสดุและความทนทานของ MacBook Air M1

สำหรับ MacBook Air M1 นั้นผลิตมาจากวัสดุระดับพรีเมียม ที่มีความแข็งแรง แต่ยังคงน้ำหนักเบา โดยตัวเครื่องผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ทำให้มีความแข็งแรงสูง แต่ว่ามีความเบา มาพร้อมกับขอบ และบอดี้แบบ Unibody ไม่มีรอยต่อ ช่วยลดโอกาสเกิดรอยแตกร้าว หรือชิ้นส่วนหลวม และหน้าจอกระจก Retina Display ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น ทำให้มีความทนต่อแรงกด และแรงบิดงอ ทนต่ออุณหภูมิ และความชื้น และทนต่อการใช้งานหนัก ส่งผลให้เครื่องดูใหม่ได้นานขึ้น ลดรอยขีดข่วน และความเสียหายจากการใช้งานประจำวัน พกพาสะดวกสบาย ไม่หนักกระเป๋า และยังช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ดี

4. แบตเตอรี่ที่ยาวนาน ทำงานต่อเนื่องได้ตลอดวัน

สำหรับแบตเตอรี่ของ MacBook Air M1 นั้นได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรองรับการใช้งานทั้งวัน โดยมีความจุประมาณ 49.9 Wh (watt-hour) ซึ่งช่วยให้การใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 15-18 ชั่วโมงจากการใช้งานทั่วไป เช่น การท่องเว็บ หรือการชมวิดีโอ นอกจากนี้ ชิป M1 ที่ใช้อยู่ในเครื่องยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ดีเยี่ยม โดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีความประหยัดพลังงานสูง เช่น การลดการใช้พลังงานเมื่อไม่ได้ทำการใช้งานหนัก รวมถึงการลดการสะสมของความร้อน ที่ทำให้เครื่องไม่ร้อนเกินไป และทำงานได้อย่างราบรื่น แม้ในขณะใช้งานหนักที่ต้องใช้พลังงานมากๆ 

ดังนั้น ความยาวนานในการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นทำให้ MacBook Air M1 เป็นเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานนอกสถานที่ หรือเดินทางบ่อยๆ เพราะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการชาร์จบ่อยๆ นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการแล็ปท็อปที่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน

4.1 ผลทดสอบแบตเตอรี่ MacBook Air M1 ในการใช้งานจริง

สำหรับผลทดสอบแบตเตอรี่ของ MacBook Air M1 เมื่อทำการใช้งานจริงพบว่าแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 18 ชั่วโมงในการดูวิดีโอ 1080p และประมาณ 15 ชั่วโมงในการท่องเว็บผ่าน Wi-Fi ซึ่งผลการทดสอบเหล่านี้ได้รับการยืนยันจากหลายแหล่งที่ทดสอบโดยตรง เช่น เว็บไซต์ต่างๆ ที่ทำการทดสอบการใช้งานจริงในหลากหลายสถานการณ์ และด้วยผลการทดสอบนี้ จึงทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า MacBook Air M1 เป็นเครื่องที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องที่สามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องทำการชาร์จบ่อยๆ

5. ความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ ใช้งานแอปพลิเคชันยอดนิยมได้อย่างไร้ปัญหา

สำหรับ MacBook Air M1 รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมที่พัฒนาสำหรับ macOS หรือโปรแกรมที่พัฒนามาเพื่อใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป โดยความสามารถในการรันโปรแกรมทั้งสองประเภท ทำให้ MacBook Air M1 สามารถรองรับการใช้งานจากโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา อีกทั้งยังสามารถรองรับแอปพลิเคชันจาก iOS และ iPadOS ที่อยู่ใน Apple Store ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วไป เช่น การจัดการเอกสาร หรือกราฟิก หรือแอปพลิเคชันที่เป็นที่นิยม เช่น Microsoft Office, Adobe Photoshop หรือโปรแกรมการออกแบบอื่นๆ ก็สามารถทำงานได้ดีบน MacBook Air M1 แบบเต็มประสิทธิภาพ ลื่นไหล และไม่มีสะดุด

5.1 แอปทำงานยอดนิยมที่ทำงานได้ดีบน MacBook Air M1

สำหรับแอปพลิเคชันยอดนิยมที่ทำงานได้ดีบน MacBook Air M1 นั้นก็มีอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office (Word, Excel, PowerPoint) ที่ทำงานได้ราบรื่น และเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว หรือจะใช้ Google Workspace ผ่าน Chrome หรือ Safari ก็ทำงานร่วมกันได้ดีแบบไร้สะดุด

สำหรับงานสายสร้างสรรค์ แอปอย่าง Adobe Photoshop, Lightroom และ Final Cut Pro ก็ถูกพัฒนาให้รองรับชิป M1 ได้ดี ทำให้ตัดต่อภาพ และวิดีโอได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึง Affinity Photo และ Pixelmator Pro ก็เป็นตัวเลือกเหมาะกับการใช้งานบน MacBook Air ที่ไม่มีพัดลม แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง

สำหรับด้านการเขียนโค้ด แอปอย่าง Visual Studio Code, Xcode, และ iTerm2 ก็สามารถทำงานได้ดีมากบน M1 เหมาะกับนักพัฒนาโดยเฉพาะผู้ที่ทำแอป iOS หรือเว็บไซต์ ในขณะที่แอปจดโน้ต และจัดการงาน เช่น Notion, Obsidian, Things 3 และ Todoist ก็เป็นที่นิยมสำหรับการจัดระเบียบชีวิต และการทำงาน

และสุดท้ายแอปอย่าง Zoom, Microsoft Teams, และ Slack ก็ถูกปรับให้รองรับ Apple Silicon ทำให้ใช้งานประชุมออนไลน์ได้อย่างเสถียรโดยไม่กินแบตเตอรี่มากนัก จึงทำให้โดยรวมแล้ว MacBook Air M1 สามารถรองรับแอปทำงานหลักๆ ได้อย่างครบถ้วน เหมาะทั้งงานเอกสาร งานสร้างสรรค์ และงานเขียนโค้ดในเครื่องเดียว

6. ความคุ้มค่าด้านราคา ลงทุนครั้งเดียว ใช้งานได้ยาวนาน

สำหรับ MacBook Air M1 เป็นแล็ปท็อปที่มีความคุ้มค่า คุ้มราคา เพราะว่าลงทุนครั้งเดียว สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ทำให้สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเครื่องทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่ไม่สูงเกินไป โดย ณ วันที่เปิดตัวนั้นมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 32,900 บาท และในปัจจุบันนั้นก็มีราคาที่ถูกลง และเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้รับ เช่น ชิป M1 ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในทุกๆ การใช้งาน ทั้งในแง่ของการประมวลผล และการใช้พลังงาน รวมถึงแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายชั่วโมง และการรองรับซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย การเลือกซื้อ MacBook Air M1 มาใช้งานในปัจจุบันนั้นถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เพราะสามารถใช้งานได้นาน และไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่บ่อยๆ ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้งานโน้ตบุ๊คในระยะยาวแบบครบจบในเครื่องเดียว

6.1 การเปรียบเทียบราคา MacBook Air M1 ในตลาดปัจจุบัน

เมื่อเปรียบเทียบราคา MacBook Air M1 กับ MacBook รุ่นอื่นๆ เช่น MacBook Pro หรือกับเครื่องโน้ตบุ๊กแบรนด์อื่นๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ก็จะพบว่า MacBook Air M1 นั้นมีราคาที่คุ้มค่ามาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้รับ รวมถึงยังมีเครื่องที่มีความบางเบา พกพกง่าย แต่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง และถ้าหากทำการเปรียบเทียบกับเครื่องโน้ตบุ๊กจากแบรนด์อื่นๆ อย่าง Dell XPS หรือ Lenovo ThinkPad ที่มีราคาสูงกว่า MacBook Air M1 แต่ความคุ้มค่าของ MacBook Air M1 นั้นยังคงเหนือกว่าในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ ความคมชัดของการแสดงผล และความรวดเร็วของการประมวล รวมถึงความสะดวกในการใช้งาน การพกพา และอายุการใช้งานในระยะยาว 

7. สรุป: ทำไม MacBook Air M1 ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำงานในปัจจุบัน

สำหรับ MacBook Air M1 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดนิยมสำหรับการทำงานในปัจจุบัน เพราะว่ามาพร้อมกับจุดเด่นที่หลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้านธุรกิจ การศึกษา หรือการสร้างสรรค์งานในด้านต่างๆ ด้วยการใช้งานชิป M1 ของ Apple ที่ให้พลังในการประมวลผลที่เร็ว และประหยัดพลังงานอย่างมาก ช่วยให้สามารถทำงานหนักๆ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การออกแบบกราฟิก หรือการทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกันได้อย่างราบรื่น และไม่กระตุก ซึ่งเป็นสิ่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในระดับเดียวกันไม่สามารถทำได้

นอกจากประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมจากการใช้งานชิป M1 แล้ว MacBook Air M1 ยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากกว่า 15 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องพกที่ชาร์จหรือหยุดพักเพื่อหาที่เสียบปลั๊ก ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานนอกสถานที่ หรือในระหว่างการเดินทาง

รวมถึงดีไซน์ และสีสันของ MacBook Air M1 ที่มีขนาดบาง และเบา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพกพาแล็ปท็อปไปทำงาน หรือเรียนในสถานที่ต่างๆ โดยมีน้ำหนักเพียง 1.29 กิโลกรัม และมีความหนาเพียง 16.1 มม. ทำให้สะดวกต่อการพกพา และไม่รู้สึกหนักเมื่อใส่ในกระเป๋า นอกจากนี้ยังมีสีสันให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีเทาสเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง ซึ่งทั้งสามสีนี้ให้ความรู้สึกหรูหรา ทันสมัย และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องที่ดูดี และมีสไตล์

และจากมุมมองด้านความคุ้มค่าทางราคา ถึงแม้ว่า MacBook Air M1 จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กบางรุ่นในตลาด แต่เมื่อพิจารณาจากคุณภาพที่ได้รับในด้านการประมวลผลที่เร็วขึ้น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และประสิทธิภาพโดยรวมแล้ว ทำให้การลงทุนใน MacBook Air M1 ถือว่าคุ้มค่า และคุ้มราคาเป็นอย่างมาก และยังคงถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพสูงในกลุ่มโน้ตบุ๊กที่บางเบา และพกพาง่าย

ดังนั้น MacBook Air M1 จึงเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาไม่เกินเอื้อม ทั้งนักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการเครื่องที่สามารถพกพาง่าย และรองรับการทำงานหลายประเภทได้ดี

8. ช่องทางการติดต่อผ่อน MacBook Air M1 กับสบายเป๋า ผ่อนง่าย สบายกระเป๋า

สำหรับใครที่กำลังสนใจ หรืออยากจะผ่อน MacBook Air M1 กับ “สบายเป๋า” ก็สามารถแวะเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเริ่มดำเนินการขั้นตอนการผ่อนกับสบายเป๋าได้แบบง่ายๆ ผ่านช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้

• Line Official : @sabaipao

• Facebook : สบายเป๋า ผ่อนไอโฟน ผ่อนมือถือแอนดรอยด์ ผ่อนง่าย สบายกระเป๋า

• TikTok : สบายเป๋า - ผ่อนง่าย สบายกระเป๋า (@sabaipao.th)

• Instagram : Sabaipao.official

• Website : www.sabaipao.com

โดยในแต่ละช่องทางการติดต่อนั้นจะมีทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการแนะนำ และให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าหากผู้ที่สนใจอยากจะผ่อน MacBook Air M1 แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ใช้บัตรประชาชนแค่ใบเดียว ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการผ่อน เอกสารที่ต้องใช้ เงื่อนไข หรือข้อสงสัยต่างๆ กับทางทีมงานได้เลย เพื่อให้ผู้ผ่อนสามารถผ่อน MacBook Air M1 หรือสินค้าไอทีอื่นๆ กับ “สบายเป๋า” ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว ทันใจ และสบายใจมากที่สุด

9. อ่านบทความเกี่ยวกับ Macbook เพิ่มเติม คลิก ที่นี่